Blue Valentine : 28
Dec 2015
ในเพจหนังกับในพันทิพ
พากันอวยว่า หนังเรื่องนี้
ทำให้เข้าใจความรักมากขึ้น
ทำให้เข้าใจความรักมากขึ้น
ทำให้ต้องหามาดูเลยยย
ดูแล้วเนื้อเรื่องก็ธรรมดา
หนังครอบครัว
ผัวเมียทะเลาะกัน
ผัวเมียทะเลาะกัน
ออกจะเฉื่อยๆด้วยซ้ำ
สำหรับคนที่อยากมีความรัก
เพราะคิดว่าถ้ามีความรัก
แล้วจะมีความสุข
แล้วจะมีความสุข
ก็จะได้เห็นอีกมุมหนึ่งว่า
หลายครั้งความรักที่ไม่เข้าใจกัน
ก็นำความช้ำใจมาให้ด้วย
ครอบครัวของดีนกับซินดี้
มีลูกสาวในวัยกำลังน่ารัก
เหมือนเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์
และน่าจะมีความสุขดี
แต่ก็มีความอึมครึมระหว่างกัน
ซินดี้เป็นผู้ช่วยแพทย์
หน้าที่การงานกำลังก้าวหน้า
ในขณะที่ดีน
เป็นพนักงานทาสีบ้าน
เป็นพนักงานทาสีบ้าน
ในความคิดซินดี้
คือ ดีนเป็นคนมีความสามารถ
คือ ดีนเป็นคนมีความสามารถ
แต่ทำไมกลับเลือกทำงาน
ที่ไม่ได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่
ที่ไม่ได้ใช้ศักยภาพที่มีอยู่
ในขณะที่ดีน รู้สึกว่า
แค่ได้เป็นสามีของซินดี้
แค่ได้เป็นสามีของซินดี้
และพ่อของแฟรงกี้
เค้าก็ไม่อยากเป็นอะไรอย่างอื่นอีก
นี่แหละปัญหาครอบครัว
ฝ่ายหนึ่งอยากให้อีกฝ่าย
เป็นอย่างที่ตัวเองต้องการ
เป็นอย่างที่ตัวเองต้องการ
และฝ่ายหนึ่งก็คิดว่า
อีกฝ่ายทำไมไม่เข้าใจกันบ้าง
อีกฝ่ายทำไมไม่เข้าใจกันบ้าง
หนังย้อนกลับไปในอดีต
ซินดี้เป็นรักแรกพบของดีน
ดีนเล่าให้เพื่อนฟังว่า
รู้สึกเหมือนรู้จักคุ้นเคยกับผู้หญิงคนนี้
รู้สึกว่าเธอไม่เหมือนใคร
เพื่อนถามกลับว่า รู้ได้ยังไง
ดีนบอกว่า ก็แค่รู้สึก..
ดีนเชื่อความรู้สึกตัวเอง
พยายามเข้าใกล้ตามจีบซินดี้
พวกเค้าเริ่มสนิทสนมกันไปตามสเตป
แต่แล้วซินดี้ก็ตั้งท้อง
โดยที่ดีนถามว่า “ใช่ลูกผมรึเปล่า”
แล้วซินดีตอบว่า “ไม่น่าจะใช่” !?!
เฮ้ยยย..
เฮ้ยยย..
ซินดี้คิดจะไปทำแท้ง
เพราะยังเรียนอยู่
แต่ก็ตัดใจทำไม่ลง
ดีนจึงขอซินดี้แต่งงาน
ถึงดีนจะรักซินดี้มาก
แต่เราว่าลึกๆ
ในระดับจิตใต้สำนึก
ในระดับจิตใต้สำนึก
ดีนก็คงรู้สึกน้อยใจ
ที่ซินดี้มีความสัมพันธ์กับคนอื่น
ที่ซินดี้มีความสัมพันธ์กับคนอื่น
น้อยใจที่ไม่ได้เป็นพ่อจริงๆ
ของแฟรงกี้
ของแฟรงกี้
ซึ่งดีนแสดงออกด้วยการ
ใช้ชีวิตแบบเอื่อยเฉื่อยไปวันๆ
ใช้ชีวิตแบบเอื่อยเฉื่อยไปวันๆ
เช้ามากินเหล้า
ออกไปทำงานทาสีบ้าน
ออกไปทำงานทาสีบ้าน
ใจร้อน วู่วาม
ไม่เป็นหลักให้ครอบครัว
ไม่เป็นหลักให้ครอบครัว
ส่วนซินดี้เราว่า
ซินดี้ก็รู้สึกผิดกับดีนไม่น้อย
ซินดี้ก็รู้สึกผิดกับดีนไม่น้อย
แต่เก็บกดความรู้สึกผิดไว้
แล้วกลายเป็นไม่มีความสุข
ขณะมี sex กับดีนอีกเลย
ขณะมี sex กับดีนอีกเลย
ปัญหาจึงยิ่งลุกลาม
พอมีปมอะไรในใจ
แล้วไม่คุยไม่เคลียร์กันให้รู้เรื่อง
แล้วไม่คุยไม่เคลียร์กันให้รู้เรื่อง
ความเข้าใจผิดอื่นๆก็ตามมา
กลายเป็นปัญหาสะสม
เป็นความน่าเบื่อที่ซ้ำซาก
มีคำพูดหนึ่งที่ซินดี้เคยคุยกับยาย
ซินดี้ถามว่า
“เราจะเชื่อความรู้สึกได้ยังไง
ในเมื่อมันจืดจางได้”
ในเมื่อมันจืดจางได้”
แล้วยายตอบว่า
“เชื่อได้ก็ต่อเมื่อเรามีความรู้สึกต่อไป”
เราตีความเอาเองว่า
ถ้าเราซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง
รู้ว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไงอยู่
เริ่มรัก,ยังรัก หรือหมดรัก
แล้วพูดมันออกมาตรงๆได้
นั่นล่ะ ความเก็บกดจะหายไป
และปัญหาก็จะลดลง
และปัญหาก็จะลดลง
ถึงระหว่างดีนกับซินดี้
จะมีปัญหาความไม่เข้าใจกัน
แต่เราว่าดีนก็รักซินดี้จริงๆ
ชอบตอนที่ดีนโมโห
ดึงแหวนแต่งงานเขวี้ยงทิ้ง
ดึงแหวนแต่งงานเขวี้ยงทิ้ง
แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจ
กลับไปหาแหวนในดงหญ้าจนเจอ
กลับไปหาแหวนในดงหญ้าจนเจอ
นั้นแหละ ตอนโมโหขาดความยั้งคิด
ก็ต้องมาลำบาก
ตอนมีสติคิดได้แล้วนี่แหละ
ตอนมีสติคิดได้แล้วนี่แหละ
ตอนหลังซินดี้ขอเลิก
แต่ดีนยังง้ออยู่
ซินดี้บอกว่า ขอเวลา
ซึ่งดีนก็ให้เวลาซินดี้ได้คิด
แล้วก็จบไปแค่นั้น
ให้คนดูมโนต่อกันเอง
ว่าจะจบแบบ happy ending
กลับมารักกัน
ว่าจะจบแบบ happy ending
กลับมารักกัน
และปรับความเข้าใจกันได้ใหม่
หรือ convert
ทางใครทางมัน..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น