The Fault in our Stars : 30 Jul 2014
หนังที่ทำให้เสียน้ำตา
ตั้งแต่ดู Teaser
ตั้งแต่ดู Teaser
แม้จะรู้สึกว่า แค่เห็น Teaser
แล้วก็พอจะเดาเรื่องราวได้ทั้งเรื่อง
แล้วก็พอจะเดาเรื่องราวได้ทั้งเรื่อง
แต่ก็ยังทำให้อยากดูอยู่ดี
เฮเซล เป็นมะเร็งปอด
ต้องใช้ถังออกซิเจนช่วยให้การหายใจสะดวกขึ้น
ต้องใช้ถังออกซิเจนช่วยให้การหายใจสะดวกขึ้น
เฮเซลมีความเครียด
ตามประสาคนที่รู้ตัวว่ากำลังจะตาย
ตามประสาคนที่รู้ตัวว่ากำลังจะตาย
แม่ของเฮเซลพาไปเข้ากลุ่ม
เพื่อหวังให้เฮเซลมีเพื่อนและร่าเริงขึ้น
เพื่อหวังให้เฮเซลมีเพื่อนและร่าเริงขึ้น
เฮเซลได้เจอออกัสตัส
สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มบำบัด
สมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มบำบัด
เขาเป็นมะเร็งกระดูก
ทำให้เขาโดนตัดขาทิ้งไปแล้ว
ทำให้เขาโดนตัดขาทิ้งไปแล้ว
กัสสนใจเฮเซลตั้งแต่แรกเจอ
แม้เขาจะพิการต้องใช้ขาเทียม
แม้เขาจะพิการต้องใช้ขาเทียม
เขาก็ยังคงร่าเริงและมองโลกในแง่ดี
---เราเองก็ยังชอบวิธีตั้งคำถาม
วิธีปลอบใจ และยิ้ม ในแบบของกัส เหมือนกัน :) ---
วิธีปลอบใจ และยิ้ม ในแบบของกัส เหมือนกัน :) ---
กัสกับเฮเซล มีความคิดที่ต่างกัน
กัสต้องการเป็นที่จดจำ …
แม้ว่าเค้าจะตายไปแล้ว
ก็อยากให้มีใครสักคนคิดถึงและจดจำเขาอยู่
ก็อยากให้มีใครสักคนคิดถึงและจดจำเขาอยู่
แต่เฮเซล อยากให้คนรอบข้างลืม …
เมื่อเฮเซลตายไปแล้ว
อยากให้ครอบครัวดำรงชีวิตต่อไปได้ตามปกติ
อยากให้ครอบครัวดำรงชีวิตต่อไปได้ตามปกติ
ความสดใสของกัส ทำให้เฮเซล ร่าเริงขึ้น
กัสชวนให้เฮเชลเอาหนังสือมาแลกกันอ่าน
หนังสือจากเฮเซลที่กัสได้อ่าน
เป็นหนังสือ An Imperial Affliction ที่พูดถึงความทุกข์
เป็นหนังสือ An Imperial Affliction ที่พูดถึงความทุกข์
ที่เล่าเรื่องผ่านตัวละครที่เป็นมะเร็ง
อยู่กับแม่และหนูแฮมสเตอร์
แล้วก็ตายไปกะทันหัน
อยู่กับแม่และหนูแฮมสเตอร์
แล้วก็ตายไปกะทันหัน
ซึ่งเนื้อหาในหนังสือก็ถูกตัดจบกะทันหันเช่นกัน
---คีย์เวิร์ด ของหนังสือเล่มนี้คือ
“ความเจ็บปวดที่เรียกร้องให้เรารู้สึกถึงมัน”---
“ความเจ็บปวดที่เรียกร้องให้เรารู้สึกถึงมัน”---
เฮเซลคาใจกับหนังสือเล่มนี้ เพราะอยากรู้ตอนจบ
อยากมั่นใจว่าทุกคนจะอยู่ได้หลังจากเธอตายไป
กัสช่วยให้เฮเซลได้ไปเจอ
กับนักเขียนหนังสือเล่มนั้น ที่อัมสเตอดัม
กับนักเขียนหนังสือเล่มนั้น ที่อัมสเตอดัม
แต่พวกเขากลับพบว่าคุณนักเขียนเป็นคนขี้เมาและหยาบคาย
และไม่ว่าจะถามยังไงนักเขียนคนนั้น
ก็ไม่บอกเนื้อเรื่องหลังจากนั้นอยู่ดี
ก็ไม่บอกเนื้อเรื่องหลังจากนั้นอยู่ดี
เมื่อผิดหวังจากการไปพบนักเขียน
เฮเซลและกัสไปพิพิธภัณฑ์ แอน แฟรงซ์ กันต่อ
เฮเซลและกัสไปพิพิธภัณฑ์ แอน แฟรงซ์ กันต่อ
---ตรงนี้ไม่เข้าใจว่า การมาที่นี่ ทำให้เฮเซลยอมรับกัสได้ยังไง??---
แต่ยังไง สถานการณ์ก็พาไป
ที่นี่เฮเซลยอมรับความรักของกัส
ที่นี่เฮเซลยอมรับความรักของกัส
จากที่ไม่เคยยอมรับ
เพราะกลัวว่า กัสจะต้องเสียใจ
เมื่อถึงเวลาที่เฮเซลต้องตายจากไป
เพราะกลัวว่า กัสจะต้องเสียใจ
เมื่อถึงเวลาที่เฮเซลต้องตายจากไป
หลังจากยอมรับความรักซึ่งกันและกัน
กัสกลับเป็นฝ่ายบอกเฮเซลว่า
ที่จริงมะเร็งได้ลามไปทั่วร่างกายกัสแล้ว
และสุดท้ายกัสก็จากเฮเซลไปก่อน!!
ในงานไว้อาลัยกัส
---เฮเซลบอกว่า ตัวเลขจาก 0 ถึง 1 มี 0.1, 0.01, 0.001
และมีจำนวนเป็นอินฟินิตี้
และมีจำนวนเป็นอินฟินิตี้
แต่ตัวเลขจากเลข 0 ถึง 2 มีจำนวนเป็นอินฟินิตี้กว่า
การได้ใกล้ชิดกับกัสในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ถึงจะสั้น
แต่ก็มีความสุขเป็นอินฟินิตี้แล้ว
ถึงจะอยากให้กัสยังอยู่ต่อ
เพื่อให้มีความสุขเป็นอินฟินิตี้กว่า ก็เถอะ----
(อันนี้แอบอ่านมาจากพันทิพ)
เพื่อให้มีความสุขเป็นอินฟินิตี้กว่า ก็เถอะ----
(อันนี้แอบอ่านมาจากพันทิพ)
เรื่องของกัส ทำให้เฮเซลได้เรียนรู้ ว่า
ไม่ว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้น จะหนักซักแค่ไหน
แต่มนุษย์ก็จะสามารถปรับตัว พร้อมรับ
และอยู่กับความทุกข์นั้นได้
และอยู่กับความทุกข์นั้นได้
แล้วความเจ็บปวดนั้น จะค่อยๆ จางไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น