วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

The Revenant 2016

The Revenant 2016 : 10 Feb 2016

คาดหวังว่าหนัง
จะเป็นตัวอย่างของการต่อสู้
เพื่อเอาชีวิตรอด
แบบที่สร้างแรงบันดาลใจ
และการลุกขึ้นสู้ทุกครั้งที่ล้มได้

แต่ดูแล้วกลับรู้สึกว่า 
หนังมันก็โหดเกิ๊นนน..

มีตอนหนึ่ง ที่ลุงอินเดียนแดง
ที่ช่วยพระเอกไว้
ถูกแขวนคอ แล้วมีป้ายเขียนว่า
“ทุกคนมีความป่าเถื่อน”
ตอนนั้นโคตรทำร้ายจิตใจเราเลย!!

เราว่าคนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วบอกว่าสนุก
ก็น่าจะเป็นคนที่มีความป่าเถื่อนในใจลึกๆ
อยู่เยอะพอสมควร

การล่า การตามล้างแค้น ต่อสู้
เลือดสาด บาดแผล เหวอะหวะ
มันเป็นอะไรที่ดูไปก็ต้องแสยะปากไป
ดูแบบเก็กหน้าสวยๆไม่ได้เลย 5555

ส่วนที่ชอบที่สุดของหนังคือ
ภาพแสงพระอาทิตย์เป็นแฉก 
ส่องอยู่เบื้องหลังดงต้นไม้สูงๆ
ให้ได้เห็นหลากหลายฤดูกาล
ภาพมันสวยทุกฤดู
ทั้งตอนต้นไม้มีใบเขียวชอุ่ม
ตอนต้นไม้เหลือแต่กิ่งก้าน
ตอนที่หิมะปกคลุม 
สวยจนอยากไปเห็นของจริง :)

ในยุคสมัยหนึ่งที่มีการล่าอาณานิคม
ยึดครองพื้นที่เพื่อทำผลประโยชน์
กลุ่มคนอเมริกัน
บุกรุกพื้นที่ชาวอินเดียนแดง
ล่าสัตว์เอาหนังกลับไปขาย

ชาวอินเดียนแดงเจ้าของถิ่น
เข้ามาปล้นหนังสัตว์
แล้วเอาไปขายให้ชาวฝรั่งเศส

แกลสอยู่ในกลุ่มคนอเมริกัน
ที่รู้จักพื้นที่แถวนี้ดี 
เพราะมีเมียเป็นอินเดียนแดงด้วย

แกลสแนะนำให้ชาวคณะ หนีทางบก
ซึ่งขัดแย้งกับความคิดของฟิทซ์ 
ที่อยากให้ไปทางเรือ

ฟิทซ์ไม่ชอบหน้าแกลสอยู่แล้ว
มักพูดจาดูถูกเมียและลูกชายของแกลส

ระหว่างเดินทางเพื่อหนีเอาตัวรอด
แกลสโดนหมีทำร้ายเกือบตาย
แต่หัวหน้าคณะ
มีความเคารพนับถือแกลสมาก
ไม่อยากปล่อยทิ้งไว้

จึงจ้างคนคอยเฝ้า
จนกว่าแกลสจะตายเอง
และให้อยู่ฝังศพอย่างสมเกียรติ

ผ่านไปสองวัน แกลสก็ยังไม่ตาย
ฟิทซ์เริ่มโมโห 
ที่แกลสทำให้เสียเวลาเดินทาง
ตั้งใจอุดปากให้แกลสตายๆไปซะ

ฮอร์คลูกชายของแกลสมาเห็น
ฟิทซ์พลั้งมือฆ่าฮอร์ค
และโกหกเพื่อนอีกคนว่า
เห็นชาวอินเดียนแดงใกล้เข้ามาแล้ว
ถ้ายังอยู่ก็ตายกันหมด
จำเป็นต้องทิ้งแกลสไว้
คิดว่ายังไงก็ตายอยู่แล้ว

ปรากฏว่าแกลสฮึดสู้ให้มีชีวิตอยู่ต่อ 
เอาตัวรอดและกลับไปถึงค่ายได้
แล้วออกตามหาฟิทซ์เพื่อแก้แค้น..จบ

ในช่วงที่แกลสกำลังจะตาย
แกลสหูแว่วได้ยินเสียงเมียพูดว่า
“ถ้าคุณยืนท่ามกลางพายุ
ด้านหน้ามีต้นไม้ใหญ่ 
คุณจะเห็นกิ่งก้านหักพังไปตามแรงลม
แต่ถ้าคุณมองที่ลำต้น 
คุณจะเห็นมันยังมั่นคง”

เอาจริงเราไม่รู้ว่าหนังต้องการสื่ออะไร
แต่จากคำพูดนั้น
ทำให้เราคิดได้ว่า

---- สิ่งใดที่จำเป็นสำหรับการมีชีวิต
จงพยายามสร้างมันขึ้นมาอย่างมั่นคง
ที่ต่อให้มีอะไร มากระทบมันแค่ไหน
เราจะมั่นคงจนผ่านพ้น และมีชีวิตต่อไปได้ ---

สำหรับเรา “สิ่งจำเป็นสำหรับการมีชีวิต” 
เรานึกถึง “บุคลิกภาพแกนกลาง”

คนเรามีบุคลิกภาพแกนกลาง
และบุคลิกภาพเปลือกนอก
ที่แสดงออกมาให้คนอื่นๆเห็น
บุคลิกภาพเปลือกนอก 
เราค่อยๆปรับเปลี่ยนมันได้
แต่บุคลิกภาพแกนกลาง
ไม่ว่าจะมีอะไรมากระทบ
เรื่องราวรุนแรงทำร้ายจิตใจแค่ไหน
ขอให้สู้จนผ่านไปได้
โดยไม่สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง
และไม่สูญเสียความภูมิใจในตนเองไป..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น