วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

ฟรีแลนซ์

ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ : 9Sep2015

การจะชอบหรือไม่ชอบหนังเรื่องหนึ่ง
มันมีได้หลายเหตุผลนะ

อย่างฟรีแลนซ์ กระแสมาแรงมาก
ช่วงแรกๆของเรื่อง ทำให้เรารู้สึกเฉยๆ
แถมบางช่วงกล้องส่ายไปมา
มันทำให้ปวดตา

แต่พอกลางๆ ค่อนไปทางท้ายเรื่อง
อย่างตอนที่ยุ่นนอนไม่หลับ
ยุ่นรู้สึกดี แค่เพราะได้อ่านข้อความจากหมออิม
ยุ่นรู้สึกอกหักจากหมออิม
ยุ่นไม่กลัวความตาย เพราะไม่มีใครให้คิดถึง
ยุ่นร้องไห้ซึ้งเวลาที่เห็นคนอื่นรักกัน
นั้นทำให้เราอินถึงพีคมาก
เรียกว่าทำให้เราออกจากโรงหนัง
ด้วยอาการเหมือนดูหนังเศร้าสะเทือนใจมา

หนังเล่าถึงวงการฟรีแลนซ์
ยุ่นเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์
ฝีมือการรีทัชเป็นที่น่าเชื่อถือ
มีเจ๋เป็นผู้ช่วยติดต่อลูกค้าให้

ได้เห็นว่าการทำงานฟรีแลนซ์มันโหดแค่ไหน
ต้องอดหลับอดนอนเพื่อส่งงานให้ทัน
ลูกค้าเสนองานมาล้นมือแค่ไหน ก็ต้องรับไว้
เพราะไม่อยากเสียฐานลูกค้าไป

วันหนึ่งหลังจากยุ่นใช้ร่างกายทำงานหามรุ่งหามค่ำ
ก็มีอาการตุ่มขึ้นตามตัว ฟ้องขึ้นมา

วันว่างหลังจากส่งงานลูกค้าและรับเช็ค
ยุ่นจึงไปหาหมอ รพ.เอกชน
บริการดี รวดเร็ว ทันใจ
แต่โดนค่ารักษาไปเกือบเจ็ดพัน
หมดเงินที่พึ่งจะได้รับมา

จากนั้นยุ่นจึงลองไปหาหมอที่สถาบันโรคผิวหนัง
ซึ่งคิวยาวมาก และเสียเวลา
แต่ที่นี่ก็ทำให้ยุ่นได้เจอหมออิม
และเริ่มใจสั่นหวั่นไหวกับหมอ

ยุ่นจึงยอมเสียเวลาไปหาหมอตามนัดทุกเดือนๆ
แต่แรกๆยุ่นก็ดูจะเป็นคนไข้ที่ดื้อ
ไม่ทำตามคำขอของหมอ
ที่ให้กินยาและออกกำลังกาย

เมื่อยุ่นไปหาหมออีก
โดยที่อาการยิ่งหนักขึ้น
หมอโกรธที่ยุ่นไม่รู้จักดูแลตัวเอง
ที่ผื่นขึ้นเป็นอาการภายนอกที่ร่างกายฟ้องออกมา
แต่ระบบร่างกายภายในเสียหายไปมากแค่ไหนแล้วไม่รู้

ยุ่นบอกในทำนองว่า
เป็นไรก็ช่าง ไม่เห็นจะกลัวตาย
หมออิมบอกว่า คนส่วนใหญ่ที่คิดแบบนั้น
เพราะชีวิตไม่มีใครให้คิดถึงเลย

ยุ่นกลับมาด้วยอาการรู้สึกผิด ที่ทำให้หมออิมโกรธ
และเหมือนเป็นหมอที่รักษาคนไข้ไม่หายด้วย

เขาพยายามนอนให้เร็วขึ้น
แต่ความกังวลเรื่องงาน 
คิดกลับไปกลับมาและคิดให้หยุดคิด
ก็ยังทำให้เค้ายังหลับยากอยู่

เขาเริ่มออกกำลังกาย
ถึงบางครั้งจะต้องขนงานไปทำด้วยก็ตาม

ช่วงนั้นยุ่นได้งาน adidasที่ยุ่นอยากทำมากๆๆๆๆ
แต่ยุ่นก็ยังพยายามแบ่งเวลานอนและออกกำลังกาย
เพราะอยากหายให้หมออิมพอใจ

แต่แล้วงานก็ผิดพลาด
ทำให้งานตกเป็นของคนอื่น
ชื่อเสียงลดลง งานหดหาย

จนได้เวลาที่ยุ่นไปหาหมอ
แต่หมออิมไม่ว่าง กลายเป็นหมอตี๋แทน
ยุ่นได้อ่านข้อความของหมออิม
แล้วก็รำพึงขึ้นมาว่า “รู้สึกดีขึ้นมาเลยเว้ย”
มันใช่มากอ่ะ หลายครั้งเราเองก็รู้สึกดี
แค่เพราะได้เห็นการตอบรับจากใครบางคน :)

หมออิมบอกให้ยุ่นไปพักผ่อน
ไปเที่ยวทะเล
ไปใช้เวลานั่งมองพระอาทิตย์บ้าง

ในเมื่อไม่มีงานเข้า
เจ๋ก็ไปญี่ปุ่นกับแฟน
ยุ่นเลยไปเที่ยวทะเลแบบเหงาๆ
และไม่รู้วิธีที่จะสนุกกับการไปเที่ยวครั้งนี้

เค้ามองคนอื่นอย่างแปลกใจ
ที่พากันนอนเฉยๆ นั่งเฉยๆ ให้เสียเวลาไปเปล่าๆ

แต่ในตอนท้าย ยุ่นได้บอกกับหมออิมว่า
นั่งมองพระอาทิตย์ได้เป็นชั่วโมง
เพราะรู้สึกว่ามันก็เพลินดี

เมื่อยุ่นกลับจากทะเล
ได้พักผ่อนเพียงพอ
ผื่นจึงค่อยๆหายไป

การไปหาหมอครั้งนี้จึงเหมือนเป็นครั้งสุดท้าย
ยุ่นกลับมาอาการเหมือนคนอกหัก
ทั้งที่ยังไม่ได้รู้จักกันมาก

ไปนั่งปรึกษาเด็กเซเว่นว่าจะทำไงดี
เด็กเซเว่นแนะนำให้หางานทำให้ยุ่งๆไว้

แล้วงานก็เข้าจริงๆ
แต่เป็นงานที่กำหนดระยะเวลาโหดจนเกินไป
จากงานที่ควรจะใช้เวลาสองเดือน
แต่จะต้องเสร็จภายในสองสัปดาห์

ยุ่นหักโหม ทำโดยไม่หลับไม่นอนอยู่ 12 วัน
แล้วก็น็อคหัวฟาดกับขอบโต๊ะ
วูบไปเหมือนคนใกล้ตาย

ตอนนั้นเองที่ยุ่นคิดได้ว่า
ยังมีอะไรที่อยากทำ
มีเรื่องราวที่อยากบอกกับคนอื่นๆอีกหลายอย่าง
โชคดีที่มีคนมาเจอยุ่น
แล้วพาไปส่งโรงพยาบาล
ยังไม่ทันจะหาย ก็ถูกบังคับให้ทำงานต่อให้เสร็จ
แต่ยุ่นไม่ทำให้แล้ว

ยุ่นกลับไปหาหมออิมอีก
บอกความรู้สึกหลายๆอย่างกับหมอ
แล้วก็จบลงด้วยมิตรภาพที่ดีระหว่างทั้ง 2 คน

หนังตั้งใจสื่อให้คนดูรู้ว่า
เราต้องหาจุดสมดุลของชีวิต
ทำงานหาเงิน ออกกำลังกาย
และพักผ่อนให้เพียงพอ
แทนที่จะต้องทำงานหาเงินให้ได้มากๆ
เพื่อใช้เงินนั้นรักษาอาการป่วยของตัวเองอีก
กับการให้เห็นคุณค่าของการมีชีวิตอยู่
การให้ความสำคัญกับคนรอบข้าง
ทำดีๆ เพื่อเค้า ก่อนที่เราจะตายจากไป..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น