วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

Wild

Wild : 21 Aug 2015

ดูเพราะศศิกร :)

เป็นเพราะเราได้ดู into the wild มาก่อน
ระหว่างดูเรื่องนี้ จึงคิดเปรียบเทียบกัน
จะว่าไปเราว่าก็คล้ายๆจะเอาไอเดีย
จาก into the wild มาทำใหม่
และปรับบทให้กลายเป็น version ผู้หญิงแหละ

เป็นเพราะดู into the wild ก่อน
และ into the wild มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง
เลยทำให้ประทับอยู่ในใจได้มากกว่า
หลังจากเปรียบเทียบแล้ว
ยังรู้สึกชอบ into the wild มากกว่า

เชอริล มีพ่อขี้เมา เมาแล้วตบตีแม่
แต่แม่ก็ยังทำหน้าที่แม่และเมียต่อไป
จนพ่อตาย (มั้ง)
แม่ก็ยังคงเป็นแม่ที่ดีสำหรับเชอริลและน้องชาย

เราดูแล้ว งง มาก ว่า เชอริลมีแม่ดีขนาดนี้
แล้วทำไมเชอริลยังใช้ชีวิตวัยรุ่นแบบ เสเพล
มีเซ็กซ์กับทุกคนที่ร้องขอ

แม้กระทั่งตอนที่มีสามีแล้ว
แล้วสามีก็รักเชอริลมากด้วยนะ
เหมือนชีวิตน่าจะดี แต่ก็กลับแย่ลงทุกวัน

หนังเล่าปมในใจ มาแค่นั้น
นอกจากพ่อขึ้เมา ที่แย่แล้ว
ทุกคนรอบตัวเชอริลก็ดีหมด
แม่ สามี และเพื่อน
งั้นก็คงต้องตีความเอาว่า
ความฝังใจเรื่องพ่อในวัยเด็ก
ทำให้เชอริลเลือกใช้ชีวิตไปในทางที่แย่
ซึ่งเราคิดว่า แรงจูงใจมันไม่ได้มากพอเลย...

หลังจากแม่ตายด้วยโรคมะเร็งไขสันหลัง
ชีวิตเชอริลยิ่งจมดิ่งลงไปอีก
นอกจากมีชู้ มั่วเซ็กซ์แล้วยังติดยา

เราไม่รู้ (หรือไม่ทันได้สังเกต)
ว่าอะไรคือจุดเปลี่ยน 
อะไรจุดประกายให้เชอริลหักดิบ
เลิกทุกอย่าง

แต่คิดเอาว่า น่าจะเพราะสามีนางขอหย่า
ชีวิตนางจึงไม่เหลือใครให้เป็นหลักอีกต่อไปแล้ว
ซึ่งเราว่ามันก็สมควรนะ!!
มีสามีดีๆ ไม่ชอบ ยังจะมั่วไม่เลือกอีกนิ่

เชอริลเตรียมของมากมาย
เพื่อให้พร้อมสำหรับการเดินป่า
เราเห็นแล้วหนักแทน
สงสัยว่านางจะแบกสิ่งเหล่านี้ไปได้ซักกี่น้ำ
นางเดินป่าเพื่ออะไร??
ยังจะหวังความสะดวกสบายในป่าเหรอ?? 
ขนเยอะขนาดนี้

แต่ก็นั้นแหละ หนทางระหว่างป่า
ก็เริ่มสอนให้เชอริลได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง

การแบกของหนัก ทำให้เชอริลรู้ว่า
ต้องทิ้งบางอย่างออกไปบ้าง
การเอาชนะความกลัว
เอาชนะความหวาดระแวงต่อคนรอบข้าง
ความเงียบทำให้เชอริลยินเสียงคำสอนของแม่ได้ชัดเจนขึ้น
และมีเวลาเพื่อพิจารณาคำสอนของแม่ได้มากขึ้น

เราชอบคนที่เป็นแม่มาก
แม่ที่ร่าเริง แม้จะมีชีวิตที่กดดันแค่ไหน
แม่ที่เข้าใจลูก

เราชอบสิ่งที่แม่สอนเชอริล หลายๆตอน
ซึ่งนั้นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า
เราดูหนังสองชั่วโมง
คำสอนของแม่ในเรื่อง 
สะกิดใจให้เราจดจำได้จนถึงตอนนี้

แต่เชอริลมันอยู่กะแม่มาทั้งชีวิต
ทำไมไม่รู้จักซึมซับค
วามมองโลกในแง่ดีมาจากแม่บ้างวะ?? 5555

ตอนนึงที่เชอริลเจอแม่ที่โรงเรียน
เชอริลอายที่แม่กับลูกเรียนที่เดียวกัน
แต่แม่ก็เข้าใจที่ลูกอาย
และแม่ก็ยังคงจะเรียน
เพื่อหาความรู้อย่างที่ต้องการต่อไป

แม่บอกเชอริลว่า
แม่ทำหน้าที่เมีย และเป็นแม่มาตลอด
ไม่เคยได้ควบคุมชีวิตตัวเองเลย
เพราะคิดว่ายังมีเวลาอีกมาก
แม่บอกให้เชอริลหาตัวตนของตัวเองให้เจอ
และให้คงความเป็นตัวของตัวเองไว้

เชอริล เคยถามแม่ว่า
ทำไม แม่ถึงรับได้ที่มีลูกเจนโลกขนาดนี้
แม่บอกว่า แม่อยากให้ลูกมีประสบการณ์มากกว่าที่แม่เคยมี

แม่มักจะร้องเพลงและเต้นไปรอบๆบ้าน
เชอริลถามแม่ว่า แม่จะมีความสุขอะไรนักหนา
แม่บอกว่า ก็มีความสุขดีนิ่
เชอริลบอกว่า มีผัวขี้เมาเนี่ยนะ มีความสุข?
แม่บอกว่า ถึงผัวจะขี้เมา
แต่ก็ทำให้ลูกทั้งสองคนของแม่เกิดมา
แม่มีความสุขเพราะเรื่องนี้

ทั้งหมดนี้ เชอริลบอกว่า
กว่าจะเข้าใจคำสอนของแม่
กว่าจะเป็นผู้หญิงอย่างที่แม่อยากให้เป็น
ก็ต้องใช้เวลาถึง 4 ปีกว่า หลังจากแม่ตายไป

และหลังจากเดินป่า
ด้วยความยากลำบากมา 100 กว่าวัน (มั้ง)

ในตอนท้าย เมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง
เชอริล รู้สึกขอบคุณสิ่งที่ผ่านมา
ชีวิตที่ผ่านมาของเชอริล
เป็นสิ่งผลักดันให้เชอริลมายืนอยู่ ณ จุดนี้
ถึงย้อนเวลากลับไปได้ 
เชอริลก็เลือกที่จะมีชีวิตแบบเดิมอยู่ดี

--ถ้าเราพอใจกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้
เราก็ควรขอบคุณทุกสิ่งที่เราเคยเป็น ด้วย
ไม่ว่าอดีตมันจะเลวร้ายแค่ไหน
แต่ก็ไม่ได้ร้ายจนทำลายชีวิตคนคนนึงได้
มันกลับเป็นพลังให้เราเรียนรู้และเติบโตขึ้นต่างหาก—

    จากหนังบอกว่า 
    “ไม่มีทางที่เราจะรู้ว่าทำไมสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น
      แต่ไม่ใช่อีกสิ่งหนึ่ง
      เส้นทางไหนจะนำไปสู่อะไร 
      สิ่งไหนจะทำลายอะไร
      หรือสิ่งไหนจะทำให้เราเติบโตหรือตาย
      หรือต้องเปลี่ยนเส้นทาง”

ดูจบแล้ว ถ้าให้คิดควบคู่กัน 
ระหว่าง wild กับ into the wild

สำหรับ into the wild แรงจูงใจของคริส
มาจากความเบื่อ เบื่อสังคม เบื่อวัตถุนิยม
จึงอยากลองใช้ชีวิตแบบ “ไม่มีอะไร”

แต่ wild แรงจูงใจของเชอริล
เกิดมาจากความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นภายใน
เข้าป่าเพื่อลงโทษตัวเอง
และจะได้ปลดปล่อยตัวเองออกจากความรู้สึกผิดนั้น

พ่อแม่ของคริส ที่คนภายนอกมองว่าดูดี
แต่ความจริงความสัมพันธ์ภายในนั้นแย่
ในขณะที่แม่ของเชอริลมีทัศนะคติที่ดี
แต่เชอริลกลับไม่เห็นคุณค่ามัน ตอนที่แม่ยังอยู่

สิ่งที่คริสได้เรียนรู้ 
รวมทั้งคนแต่ละกลุ่มที่คริสได้ไปเจอ
ล้วนทำให้คริสได้มุมมองใหม่ๆ
และมีความสัมพันธ์ที่ดีและอ่อนโยนด้วย
แต่เชอริล คงด้วยความที่เป็นผู้หญิง
ภัยนั้นมีรอบด้าน
ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
จึงเริ่มด้วยความหวาดระแวง และระวังตัว
แต่ก็มีบางกลุ่มที่ชื่นชม
ความเป็นหญิงแกร่งของเชอริล

สุดท้ายแล้ว ก็แล้วแต่จริตใครจริตมัน
ว่าใครจะชอบเรื่องไหนมากกว่า
สำหรับเรา เราอินกับ into the wild มากกว่า
เพราะเรามีความรู้สึกหลายๆอย่างเหมือนกันกับคริส
ความเบื่อโลกทุนนิยม
และเราก็ชอบความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ
ในแบบของคริสมากกว่าด้วย

ตอนดู wild เราสงสัยในใจตลอด
ว่าอะไรทำให้เชอริลตัดสินใจเข้าป่า
ทำไมเชอริลจึงคิดว่าการเข้าป่า
จะช่วยให้เชอริลให้อภัยตัวเองได้
เราไม่เข้าใจ

ทุกวันนี้ เวลาที่เราจะทำอะไร
เราก็จะถามตัวเองว่า “ทำเพื่ออะไร??”
ถ้าจะเข้าป่า คงเพราะอยากพบเจอสิ่งใหม่ๆ
ได้สัมผัสกับธรรมชาติ
และได้พูดคุยแลกเปลี่ยน
กับเพื่อนและคนอื่นๆในบรรยากาศดีๆ
ไอ้ที่จะคิดว่า 
เข้าป่าเพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดตัวเองนั้น คงไม่
เพราะมีหลายทางที่พัฒนาตัวเองได้
เราเลือกทางที่สบายใจมากกว่า ดีกว่า

--บางคนเลือกทำตามความตั้งใจ
เพราะตั้งใจแล้วว่าจะทำ
บางคนเปลี่ยนความตั้งใจใหม่
เพราะรู้ว่ามีหนทางที่ง่ายกว่า
ในการเรียนรู้ชีวิต..--


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น