วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

Imitation Game

Imitation Game : 4 Sep 2015

หยิบแผ่นมาเลือก ว่าจะดูเรื่องไรดี
โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย
เจอเรื่องนี้ก็เปิดดูเลย
โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแนวไหน และเกี่ยวกับอะไร

แล้วก็ต้องแปลกใจ 
ที่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งมันเหมาะเจาะ
กับอารมณ์ที่ค้างจาก The Pianist 
ที่ดูเมื่อกลางวันพอดี

แต่อารมณ์ และแง่มุมของหนังนั้น 
ต่างกันสิ้นเชิง

ใน Imitation Game นั้น
เล่าถึง อลัน ทูริ่ง นักคณิตศาสตร์ 
อัจฉริยะที่ชอบแก้คำปริศนาเป็นชีวิตจิตใจ

เค้าเข้ามาสมัครงานกับกองทัพอังกฤษ
เพื่อช่วยถอดรหัสอีนิกมา
ที่เยอรมันใช้สั่งการแผนการรบ

อลันเก่งแต่เป็นคนแปลก ลึกลับ และเก็บตัว
ชอบทำงานคนเดียว

ในช่วงแรกๆ เค้ามีปัญหากับผู้ร่วมงานคนอื่นๆ
จนเมื่อคลาร์ก เข้ามาร่วมทีม

คลาร์กเป็นผู้หญิงที่ฉลาด
ทั้งเรื่องการถอดรหัสและความเป็นมิตรกับคนอื่นๆ
คลาร์กบอกอลันว่า 
อลันเก่งจริงและความคิดของอลันจะสำเร็จเข้าสักวันนึง
แต่ทุกคนในทีมจะช่วยให้สำเร็จเร็วขึ้น

อลันจึงเริ่มปรับตัวเข้ากับคนอื่นๆ
และช่วยกันสร้างเครื่องจักร
ที่สามารถถอดรหัสจากข้อความของเยอรมันได้

อลัน เรียกเจ้าเครื่องจักรนี้ว่า “คริสโตเฟอร์”

แต่เรื่องมันก็มาลำบากใจตรงที่
ถึงจะถอดรหัสสำเร็จแล้ว
ถึงจะรู้ว่าแต่ละวันเยอรมันจะสั่งการรบยังไง
ทิ้งระเบิดที่ไหนบ้าง
แต่จะทำยังไงให้รู้แล้วเนียนเหมือนว่าไม่รู้
เพราะถ้าเยอรมันรู้ตัวว่าอังกฤษถอดรหัสได้แล้ว
เยอรมันก็จะเปลี่ยนรหัสการส่งข่าวอีกแน่

หลายครั้งและหลายชีวิตต้องยอมสละ
ทั้งๆที่รู้ล่วงหน้าก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้น T-T

แผนดำเนินการไปเรื่อยๆ จนสงครามสิ้นสุดลง
ด้วยชัยชนะของพันธมิตร

โดยในตอนท้ายๆ ระบุว่า 
เจ้าคริสโตเฟอร์ที่อลันและพวกสร้างขึ้น
ช่วยให้สงครามสิ้นสุดเร็วขึ้น 2 ปี
และช่วยชีวิตคนไว้ได้กว่า 4 ล้านชีวิต

หลังสิ้นสุดสงคราม
อลันใช้ชีวิตตามปกติ
แต่เพราะมีเหตุขโมยขึ้นบ้าน
ทำให้นายตำรวจเริ่มขุดคุ้ยประวัติของอลัน
และรู้ความจริงว่า อลันเคยทำงานในกองทัพ

พร้อมๆกับมีข่าวแพร่ออกไปด้วยว่าอลันเป็นเกย์

   --ในวัยเด็ก อลันมักจะโดยเพื่อนๆในชั้นแกล้งเสมอ
      แรกๆอลันก็ดิ้นรนต่อสู้
      แต่เมื่ออลันคิดได้ว่า ที่คนอื่นมักใช้ความรุนแรง
      ก็เพราะความรุนแรงนำมาซึ่งความสะใจ
      อลันจึงเริ่มนิ่ง เพื่อลดความสะใจของพวกนั้นลง

      เพื่อนคนหนึ่ง ที่เข้ามาช่วยเหลืออลัน 
      คือ คริสโตเฟอร์
      เค้าทั้งสองจึงกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน

      อลันเริ่มรู้สึก “รัก” คริสโตเฟอร์

      เมื่อเปิดเทอมใหม่ 
      อลันตั้งใจจะบอกรักคริสโตเฟอร์
      แต่กลับกลายเป็นต้องรู้ข่าว 
      ว่าคริสโตเฟอร์เสียชีวิตแล้วด้วยโรควัณโรค--

ข่าว Homosexual ของอลันแพร่ออกไป
และศาลพิจารณาให้อลันต้องกินยาปรับฮอร์โมน
เป็นเวลา 1 ปี เพื่อรักษาอาการนี้

แต่ยาก็มีผลทำให้อลัน มือไม้สั่น
และ “คิด” ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน

เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เค้าอึดอัดกับชีวิตแบบนั้น 
เค้าตัดสินใจฆ่าตัวตาย ขณะที่อายุ 41 ปี

ด้วยสังคมสมัยนั้น ทำให้คนส่วนใหญ่รังเกียจ
และมองว่าอลัน ผิดปกติ

จนแม้แต่ความดีที่เคยช่วยกองทัพยุติสงคราม 
ก็ถูกมองข้ามไป T-T

ตอนท้ายของหนังบอกว่า
ในปี 2013 ราชินีอลิซาเบ็ธ ของอังกฤษ
ให้อภัยโทษและยกย่องอลันในฐานะนักคณิตศาสตร์
และผู้ริเริ่มต้นแบบคอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันทุกวันนี้

แวะไปอ่านประวัติอลัน ใน wiki
พี่เค้าไม่ธรรมดาเลย
นอกจากคิดเครื่องจักรทูริ่งแล้ว
ยังทำงานวิจัยเรื่องระบบประสาท 
ความคิด การวิเคราะห์ NLP 
แล้วยังเป็นนักวิ่งมาราธอน
เกือบจะเหรียญทองอีกด้วย

เรียกว่าเก่งหลายแนวมาก สุดยอดเลย

ในหนัง มีบทสนทนาหลายตอนที่ชวนให้เก็บไปคิดต่อ
แต่ประโยคหนึ่ง ที่ชอบมาก
ตอนที่อลันโดนแกล้ง แล้วอลันบอกว่า
"แม่บอกว่า ที่เพื่อนๆคนอื่นไม่ชอบอลัน
เพราะอลันฉลาดกว่า"
แต่คริสโตเฟอร์บอกว่า 
"เพราะอลันแตกต่างจากคนอื่นต่างหาก"

# จริงเนอะ ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนดี คนเก่ง คนฉลาด
แล้วจะได้รับความรักจากคนอื่นๆ
คนเรามักยอมรับคนที่ยอมทำตาม
และทำอะไรเหมือนๆกันมากกว่า #

ไม่ใช่จะบอกว่า ความแตกต่างไม่ดีนะ
แต่ถ้าเลือกจะแตกต่าง
ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้ด้วย
เราเองก็คนนึง ที่มักจะทำตัว “ต่าง”
แต่ก็สร้างความเหงาให้พอสมควรเลย..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น